ประเทศไทยมีการบริหารจัดการหลายภาคส่วน
เพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าในทุกๆด้านเหมือนกับอารยะประเทศ
ในการบริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชน ก็ต้องมีความเสี่ยงองค์กร และเมื่อกล่าวถึง
การบริหารความเสี่ยง ผู้บริหารองค์กร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
พนักงานทุกคนในองค์กร
ควรจะต้องเข้าใจในพื้นฐานของแนวความคิดของการบริหารความเสี่ยงที่ทุกคนในองค์กรต้องทำความเข้าใจร่วมกัน
เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงบรรลุเป้าประสงค์ วิสัยทัศน์
และพันธกิจขององค์กร นิยามของความเสี่ยง
ความเสี่ยงมีความหมายในหลากหลายแง่มุม เช่น
-
โอกาสที่เกิดขึ้นแล้วธุรกิจจะเกิดความเสียหาย (
Chance of Loss)👈
-
ความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจ ( Possibility
of Loss)👈
-
ความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ( Uncertainty
of Event)👈
-
การคลาดเคลื่อนของการคาดการณ์ ( Dispersion
of Actual Result)👈
-
ความไม่แน่นอนของเหตุการณ์
ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ความเสี่ยงนั้น ๆ
จะมีแนวโน้มที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อยในบริษัท👈
💥 ภัย ( Peril) คือ สาเหตุของความเสียหาย
ซึ่งภัยสามารถเกิดขึ้นได้จากภัยธรรมชาติ เช่น เกิดพายุ สึนามิ น้ำท่วม แผ่นดินไหว
เป็นต้น ภัยนอกจากจะเกิดขึ้นได้จากภัยธรรมชาติแล้ว
ภัยนั้นยังเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ เช่น อัคคีภัย จลาจล ฆาตกรรม เป็นต้น
สำหรับสาเหตุสุดท้ายที่จะเกิดภัยได้นั้นคือภัยที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจ
เพราะภัยที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจ เป็นอีกสาเหตุที่สำคัญ
เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วคนทั้งประเทศ หรือทั้งภูมิภาคจะได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง
💥สภาวะที่จะทำให้เกิดความเสียหาย ( Hazard) คือ
สภาพเงื่อนไขที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ ความเสียหายเพิ่มสูงขึ้น โดยสภาวะต่าง ๆ
นี้สามารถแบ่งออกได้เป็น สภาวะทางด้านกายภาพ ( Physical) คือ
สภาวะของโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย เช่น ชนิดและทำเล ที่ตั้ง
ของสิ่งปลูกสร้าง อาจเอื้อต่อการเกิดเพลิงไหม้ สภาวะทางด้านศีลธรรม (Moral)
คือ สภาวะของโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากความไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน
เช่น การฉ้อโกงของพนักงาน และสภาวะด้านจิตสำนึกในการป้องกันความเสี่ยง (Morale)
คือ สภาวะที่ไม่ประมาทและเลินเล่อ
หรือการไม่เอาใจใส่ในการป้องกันความเสี่ยง เช่น
การที่พนักงานปล่อยให้เครื่องจักรทำงานโดยไม่ควบคุม
ความเสี่ยง ( Risk) คือ การวัดความสามารถ
ที่จะดำเนินการให้วัตถุประสงค์ของงานประสบความสำเร็จ ภายใต้การตัดสินใจ งบประมาณ
กำหนดเวลา และข้อจำกัดด้านเทคนิคที่เผชิญอยู่ อย่างเช่น การจัดทำโครงการเป็นชุด
ของกิจกรรม ที่จะดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่งในอนาคต โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
มาดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ ภายใต้กรอบเวลาอันจำกัด
ซึ่งเป็นกำหนดการปฏิบัติการในอนาคต ความเสี่ยงจึงอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอน และความจำกัดของทรัพยากรโครงการ
ผู้บริหารโครงการจึงต้องจัดการความเสี่ยงของโครงการ
เพื่อให้ปัญหาของโครงการลดน้อยลง และสามารถดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ
ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพการจัดการความเสี่ยงหรือ
การบริหารความเสี่ยง ( Risk managment) คือ
การจัดการความเสี่ยง ทั้งในกระบวนการในการระบุ วิเคราะห์(Risk analysis) ประเมิน (Risk assessment) ดูแล ตรวจสอบ
และควบคุมความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับ กิจกรรม หน้าที่และกระบวนการทำงาน
เพื่อให้องค์กรลดความเสียหายจากความเสี่ยงมากที่สุด
อันเนื่องมาจากภัยที่องค์กรต้องเผชิญในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือเรียกว่า อุบัติภัย
(Accident)
👉💥ความเสี่ยง คือ เหตุการณ์การกระทำใด ๆ
ที่อาจเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
และจะส่งผลกระทบสร้างความเสียหายความล้มเหลวหรือลดโอกาสที่จะบรรลุความสำเร็จต่อการบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทั้งในระดับองค์การระดับหน่วยงานและระดับบุคคลได้ การบริหารความเสี่ยง ( Risk Management) หมายถึง กลวิธีที่เป็นเหตุเป็นผลที่นำมาใช้ในการบ่งชี้ วิเคราะห์ ประเมิน
จัดการ ติดตาม และสื่อสารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหน่วยงาน/ฝ่ายงาน
หรือกระบวนการดำเนินงานขององค์กร เพื่อช่วยลดความสูญเสียในการไม่บรรลุเป้าหมายให้เหลือน้อยที่สุดและเพิ่มโอกาสแก่องค์กรมากที่สุดการบริหารความเสี่ยง ยังหมายความถึง
การประกอบกันอย่างลงตัวของวัฒนธรรมองค์กร กระบวนการและโครงสร้างองค์กร
ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการบริหาร
และผลได้ผลเสียขององค์กรอีกด้วย การบริหารความเสี่ยงขององค์กรโดยรวม ( Enterprise
Wide Risk Management) คือ
การบริหารความเสี่ยงโดยมีโครงสร้างองค์กร กระบวนการ และวัฒนธรรมองค์กร
ประกอบเข้าด้วยกันและมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
💓ผสมผสานและเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
เพราะเป็นกลไกส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนไปสู่การกำกับดูแลกิจการที่ดี
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์และการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร
และเป็นที่พอใจของผู้มีผลประโยชน์ร่วม
💓การบริหารความเสี่ยงควรสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานต่าง
ๆ ขององค์กร เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ การตัดสินใจ
และสามารถนำไปใช้กับองค์ประกอบอื่นๆ ในการบริหารขององค์กรได้เป็นอย่างดี
💓พิจารณาความเสี่ยงทั้งหมด
โดยครอบคลุมความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร
ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเกี่ยวกับกลยุทธ์ การดำเนินงาน
การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการเงิน
ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหาย ความไม่แน่นอน และโอกาส
รวมถึงการมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้มีผลประโยชน์ร่วม
💥ความเสี่ยงโดยรวมของทุกองค์กร
ได้แก่💥
1. ความเสี่ยงเกี่ยวกับกลยุทธ์
(Strategic Risk)
2. ความเสี่ยงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน
(Operational Risk)
3. ความเสี่ยงเกี่ยวกับการรายงานทุกประเภท
รวมทั้งรายงานทางการเงิน (Financial Risk)
4. ความเสี่ยงทางด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (Compliance Risk)
ความเสี่ยงเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหายความไม่แน่นอนและการสูญเสียโอกาส
การสร้างคุณค่าเพิ่ม รวมถึงการมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์
และความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้เสีย อย่างสำคัญ การบริหารความเสี่ยงมีความคิดแบบมองไปข้างหน้า
โดยบ่งชี้ปัจจัยของความเสี่ยงว่าเหตุการณ์ใดที่อาจจะเกิดขึ้นที่มีผลทางลบ
และหากเกิดขึ้นจริงจะมีผลกระทบอย่างไรต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
เพื่อให้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องจัดให้มีแนวทางป้องกันและการจัดการที่เหมาะสม
ก่อนเกิดปัญหาจริงๆ ในภายหน้าการบริหารความเสี่ยงต้องได้รับการสนับสนุนและมีส่วนร่วม
โดยทุกคนในองค์กรตั้งแต่ระดับกรรมการบริหาร ผู้บริหารระดับสูง
และพนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารความเสี่ยง
เพื่อความสำเร็จของเป้าประสงค์ พันธกิจ และวิสัยทัศน์ขององค์กร การบริหารความเสี่ยงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการกำกับดูแลกิจการ
เพื่อช่วยให้องค์กรทั่วไป บรรลุวัตถุประสงค์หรือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่กำหนดไว้
ช่วยให้เกิดผลการดำเนินงานที่ดี
และปฏิบัติงานตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องคณะกรรมการบริหาร
และผู้บริหารขององค์กรทั่วไป ควรมีความเข้าใจต่อผลลัพธ์ในข้อดี
และข้อด้อยของแต่ละเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
และจัดให้มีการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จ ลดโอกาสของการล้มเหลว
และลดความไม่แน่นอนในผลการดำเนินงานโดยรวม
เพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์ขององค์กรได้อย่างมั่นใจ
การระบุชี้ว่าองค์กรกำลังมีภัย
เป็นการระบุชี้ว่าองค์กรมีภัยอะไรบ้างที่มาเผชิญอยู่
และอยู่ในลักษณะใดหรือขอบเขตเป็นอย่างไร นับเป็นขั้นตอนแรกของการบริหารความเสี่ยงการประเมินผลกระทบของภัยเป็นการ
ประเมินผลกระทบของภัยที่จะมีต่อองค์กรซึ่งอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
การประเมินความเสี่ยงที่องค์กรต้องเตรียมตัวเพื่อรับมือกับภัยแต่ละชนิดได้
อย่างเหมาะสมมากที่สุดการจัดทำมาตรการตอบโต้ตอบความเสี่ยงจากภัยการ
จัดทำมาตรการตอบโต้ตอบความเสี่ยงเป็นมาตรการที่จัดเรียงลำดับความสำคัญแล้ว
ในการประเมินผลกระทบของภัย มาตรการตอบโต้ที่นิยมใช้เพื่อการรับมือกับภัยแต่ละชนิด
อาจจำแนก ดังนี้
-
มาตรการขจัดหรือลดความรุนแรงของความอันตรายของภัยที่ต้องประสบ😅
-
มาตรการที่ป้องกันผู้รับภัยมิให้ต้องประสบภัยโดยตรง
เช่น😂
-
ภัยจากการที่ต้องปีนไปในที่สูงก็มีมาตรการป้องกันโดยต้องติดเข็มขัดนิรภัย
กันการพลาดพลั้งตกลงมา😋
-
ภัยจากไอระเหยหรือสารพิษก็ป้องกันโดยออกมาตรการให้สวมหน้ากากป้องกันไอพิษ
เป็นต้น😍
-
มาตรการลดความรุนแรงของสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น
กรณีเกิดเพลิงไหม้ในอาคารได้มีการขจัดและลดความรุนแรง
โดยออกแบบตัวอาคารให้มีผนังกันไฟ กันเพลิงไหม้ลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง
และมีการติดตั้งระบบสปริงเกอร์
ก็จะช่วยลดหรือหยุดความรุนแรงของอุบัติภัยลงได้😁
-
มาตรการกู้ภัยก็เป็นการลดความสูญเสียโดยตรง
ลงได้มาก😝
-
มาตรการกลับคืนสภาพ
ก็เป็นอีกมาตรการในการลดความเสียหายต่อเนื่องจากภัยหรืออุบัติภัยแต่ละครั้งลงได้
การบริหารความเสี่ยงในองค์กร
ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง คือ
การนำกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กรจะมีการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้เนื่องจากการบริหารความเสี่ยงเป็นการทำนายอนาคตอย่างมีเหตุผลมีหลักการและหาทางลดหรือป้องกันความเสียหายในการทำงานแต่ละขั้นตอนไว้ล่วงหน้า
กรณีที่พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
โอกาสที่จะประสบปัญหาน้อยในขณะที่องค์กรอื่นที่ไม่เคยมีการเตรียมการหรือไม่มีการนำแนวคิดของกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาใช้
เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตขึ้น
องค์กรเหล่านั้นจะประสบกับปัญหาและความเสียหายที่ตามมาโดยยากที่จะแก้ไขดังนั้นการนำกระบวนการบริหารความเสี่ยงมาช่วยเสริมร่วมกับการทำงานจะช่วยให้ภาระงานที่ปฏิบัติการอยู่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จุดใดที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงกับองค์กร เรื่องการเงินการคลัง การบัญชี
การเมือง จะมีผลกระทบ แหล่งที่มาของความเสี่ยงแบ่งเป็น 2 ด้าน
ได้แก่ ภายในองค์กร และภายนอกองค์กร
ภายในองค์กร คือ อย่างเช่นสถานที่ทำงานไม่ปลอดภัย ระบบบัญชีมีส่วนสำคัญมาก
การจะตั้งเป็นสำนักงานเป็นองค์กรต่าง ๆ ระบบการเงิน
ระบบบัญชีต้องเป็นที่น่าเชื่อถือ วัฒนธรรมขององค์กร ต่าง ๆ ระบบการเงิน
ระบบบัญชีต้องเป็นที่น่าเชื่อถือ
วัฒนธรรมขององค์กรไม่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพการฝึกอบรมพนักงานไม่เพียงพอเนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนต้องมีการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ความสามารถที่ดีขึ้นและเรื่องความขัดแย้งของผลประโยชน์
(Conflict of interest) ขัดผลประโยชน์กันในองค์กรเมื่อไหร่องค์กรนั้นก็จะเสียหายภายนอกองค์กร
การเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
กระแสโลกาภิวัฒน์เสถียรภาพทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภค
กระแสสังคม สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
2.
คณะดำเนินงานพร้อมที่จะค้นหาและจัดการกับความเสี่ยงที่พบโดยไม่หลบเลี่ยงปัญหา
3.
หลังจากการประเมินความเสี่ยงขั้นต้นแล้วควรจะมีการทำซ้ำอีกตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงเดิม
และค้นหาความเสี่ยงใหม่ ๆ อยู่เสมอ
4.
มีหลักเกณฑ์ประเมินที่เป็นมาตรฐานครอบคลุมองค์ประกอบทุกส่วน
5.
มีการจัดทำรายงานผลไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและนำเสนอต่อผู้บริหาร
1.
เทคโนโลยีและสารสนเทศช่วยในการจัดเก็บข้อมูล การคำนวณต่าง ๆ
การส่งถ่ายข้อมูลและสอบกลับได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
2.
การฝึกอบรมบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ความเข้าใจในระบบบริหารความเสี่ยงและตระหนักถึงความสำคัญในการจัดทำระบบ
3.
แรงผลักดันจากผู้บริหาร
ผู้บริหารควรตั้งใจทำระบบบริหารความเสี่ยงอย่างจริงจังและให้ความสนับสนุนในทุก ๆ
ด้าน
4.
ความร่วมแรงร่วมใจจากบุคลากรทุกคนในทุกระดับขององค์กร
1. Take การยอมรับความเสี่ยง (Risk Acceptance) การยอมรับให้มีความเสี่ยงเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดการหรือสร้างระบบควบคุมอาจมีมูลค่าสูงกว่าผลลัพธ์ที่ได้แต่ควรมีมาตรการติดตามและดูแล
เช่น การกำหนดระดับของผลกระทบที่ยอมรับได้ เตรียมแผนการตั้งรับจัดการความเสี่ยง
2. Treat การลด/การควบคุมความเสี่ยง (Risk
Reduction/Control) การออกแบบระบบควบคุม
การแก้ไขปรับปรุงการทำงานเพื่อป้องกันหรือ จำกัดผลกระทบ และโอกาสเกิดความเสียหาย
เช่น ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะวางมาตรการเชิงรุก เป็นต้น
3. Terminate การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk
Avoidance) การหยุดหรือเปลี่ยนแปลงกิจกรรมที่เป็นความเสี่ยง เช่น
งดทำขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและจะนำมาซึ่งความเสี่ยง ปรับเปลี่ยนรูปแบบ การทำงาน
ลดขอบเขตการดำเนินการ เป็นต้น
4. Transfer การกระจาย/โอนความเสี่ยง (Risk
sharing/spreading) การกรายทรัพย์สินหรือกระบวนการต่าง ๆ
เพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญเสีย เช่นการประกันทรัพย์สินเพื่อโอนความเสี่ยงไปยังบริษัทประกัน
การจ้างบริษัทภายนอกให้ทำงานบางส่วนแทน การทำสำเนาเอกสารหลาย ๆ ชุด
การกระจายที่เก็บทรัพย์สินมีค่า เป็นต้น
1. จัดให้มีโครงสร้างของการบริหารความเสี่ยง
เช่นมีคณะกรรมการรับผิดชอบโดยตรงกำกับดูแลบริหารความเสี่ยงในระดับองค์กรสูงสุดจะมีกรรมการคอยตรวจสอบหน่วยงานในสังกัดได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการกำกับนโยบาย
เชื่อมโยงการบริหารความเสี่ยงกับการควบคุมภายในจะเป็นสิ่งที่ลดปัญหาต่าง ๆ
ของหน่วยงานได้
2. การกำหนดขอบเขต/กรอบแนวทางการบริหารความเสี่ยงและวัฒนธรรมองค์กรด้วยการกำหนดนโยบาย
วัตถุประสงค์
และกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงรวมทั้งระดับความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้เพื่อให้
การบริหารความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์ที่ต่อเนื่องและเป็นแบบบูรณาการ
3. การดำเนินการตามกระบวนการตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง
5 ขั้นตอนประกอบด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องรองรับวิสัยทัศน์และพันธกิจตามหลักการ
SMART คือ Specific (ชัดเจน)
มีการระบุผลตอบแทนหรือผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างชัดเจนเพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ Measurable
(บรรลุผลได้) สามารถวัดผลและระบุหลักเกณฑ์ของการวัดผลได้ Achievable
(บรรลุผลได้)
มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ตามสภาพการดำเนินธุรกิจ ระยะเวลา
และทรัพยากรที่ได้รับการจัดสรร Realistic (สมเหตุผล)
สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ส่วนอื่น ๆ ในองค์กรและสัมพันธ์กับเป้าหมายในระดับที่สูงกว่า
Timely (มีการกำหนดเวลา)
มีการระบุเวลาที่ชัดเจนต้องการบรรลุวัตถุประสงค์เมื่อไรทั้งนี้ตามแนวทางของ COSO
(The Committee of Sponsoring Organization of the Tread way Commission) ซึ่งเป็นคณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนจากสถาบันวิชาชีพ 5 แห่งในสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้จัดทำ Enterprise Risk Management
Framework สำหรับใช้เป็นแม่แบบในการบริหารความเสี่ยงองค์กรได้แบ่งประเภทของวัตถุประสงค์เป็น
4 ด้าน คือ ด้านกลยุทธ ด้านปฏิบัติการ ด้านการรายงาน
ด้านการปฏิบัติตามกฏหมาย การระบุความเสี่ยง คือการระบุหรือว่าคาดการณ์เดาเหตุการณ์ที่เป็นเชิงลบซึ่งจะทำให้องค์กรเสียคุณค่าหรือขัดขวางทำให้องค์กรทำงานไม่บรรลุผล
สาเหตุไม่ว่าจะเป็นภายในองค์กรควรควบคุมได้ เช่น วัฒนธรรมโครงสร้างองค์กร บุคลากร
อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ และสถานที่ภายนอก เช่น เศรษฐกิจ การเมือง
สิ่งแวดล้อม สามารถแก้ปัญหาได้ถ้ารู้วิธีดำเนินการ
เรียกว่าสร้างแบบแผนหรือสร้างแนวกำหนด
ขอขอบคุณ https://med.mahidol.ac.th/
สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561
ขอขอบคุณ https://med.mahidol.ac.th/
สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น